คู่มือการใช้งานระบบเทรด Super-D-EA เบื้องต้น

สำหรับการใช้ระบบเทรด Super-D-EA ในการเข้าออเดอร์เราจะแบ่งสัญญาณต่างๆออกเป็น 2 ส่วนคือ

1. ส่วนแสดงสถานะของคู่เงินหรือสินทรัพย์ต่างๆ 

ปัญหาแรกของการเทรดปกติก็คือเมื่อเปิดกราฟราคาของคู่เงินขึ้นมาหนึ่งคู่เงิน นอกจากจะไล่หา Pattern ต่างๆบนกราฟราคาแล้ว หากเราอยากรู้ว่าปริมาณซื้อขายเป็นอย่างไร โมเมนตัมของราคาเป็นอย่างไร สถานนะของสัญญาณอินดิเคเตอร์ต่างๆเป็นอย่างไร และอื่นๆ ซึ่งจำเป็นต้องใส่สัญญาณอินดิเคเตอร์ต่างๆลงไปในกราฟที่เปิดนั้น สำหรับระบบเทรดใช้สัญญาณทั้งหมด 12 ตัวต่อหนึ่งคู่เงิน ลองคิดว่าว่าหากเราเอาอินดิเคเตอร์ 12 ตัวลงไปไว้ร่วมกับกราฟราคา มันจะดูรก ดูสัญญาณยุ่งยากมาก และดูลายตามากแค่ไหน และ ระบบ Dashboard สามารถแสดงคู่เงินได้ถึง 30 คู่เงินในหน้าจอเดียว หากใช้ระบบปกติต้องเปิดกราฟขึ้นมาถึง 30 กราฟ และทุกๆกราฟต้องใส่อินดิเตอร์กราฟละ 12 ตัว มันจะยุ่งยากแค่ไหน สำหรับท่านที่บอกระบบ Dashboard ดูลายตา ระบบปกติยิ่งจะยุ่งยาก และดูรก ลายตามากกว่า

แสดงสถานะของคู่เงินต่างๆ

ADR ใช้ดูค่าการเคลื่อนที่ของราคา ยอ่งค่า % สูงแสดงว่าคู่เงินนั้นราคาเคลื่อนที่แรง

V-W1 ,V-D1 ,V-H4 ,V-H1 แสดงปริมาณการซื้อขายของแต่ละไทม์เฟรม

SP/TR แสดงค่าสเปรด (Spread) ของคู่เงินขณะนั้น และ สีของตัวเลขใช้สื่อถึงทิศทางของเทรนด์ของคู่เงินนั้นๆ

TIMEFRAME-STATUS แสดงสถานะของไทม์เฟรมต่างๆตั้งแต่ M1 จนถึง MN ว่ามีสถานะเป็นอย่างไร

สีเขียวหมายถึงแรงขาขึ้น สีแดงหมายถึงแรงขาลง

EU หมายถึงเกิด Bullish Engulfing

ED หมายถึงเกิด Bearish Engulfing

PU หมายถึงเกิด Bullish Pin bar

PD หมายถึงเกิด Bearish Pin bar

RT หมายถึงการ Retest ของราคา

แสดงความหมายของสถานะไทม์เฟรม

นอกจากนั้นยังสามารถแสดงความอ่อนแข็งของสกุลเงินต่างๆ และการเกิด Breakout ,Sideway ,Stochastic ,Moving average ,MACD และ Pivots

 

ใช้ประโยชน์จากสถานะของสัญญาณต่างๆได้อย่างไร

หากผู้ใช้มีประสบการณ์ในการใช้งานสัญญาณหรืออินดิเคเตอร์หรือเครื่องมือเหล่านี้มาก่อนก็จะเข้าใจว่าจะดูอะไรบ้าง สามารถเอาสถานะมาใช้ประโยชน์ในการเลือกคู่เงินได้เป็นอย่างดี โดยปกติการเทรดเราจะเน้นดูปริมาณการซื้อขาย ดูเทรนด์ ดู Price action และ ดูค่าความอ่อนแข็งของสกุลเงิน เพราะปัจจัยเหล่านี้มันมีผลต่อการขึ้นลงของกราฟโดยตรง

แต่หากเรายังไม่มีประสบการณ์ในการดูสถานะต่างๆ และยังไม่เข้าใจความหมายของสัญญาณต่างๆ ก็แนะนำให้ดูแค่สีก็พอ หากช่องต่างๆเป็นสีเดียวกันในหลายๆช่อง เช่น

  • สีเขียวในหลายๆช่องก็แสดงถึงแรงของคู่เงินนั้นเป็นขาขึ้น ก็ควรจะเน้นเข้าไปเทรดในฝั่ง Buy
  • สีแดงในหลายๆช่องก็แสดงถึงแรงของคู่เงินนั้นเป็นขาลง ก็ควรจะเน้นเข้าไปเทรดในฝั่ง Sell

ดูแค่สีก็พอที่จะบอกได้ถึงแรงของตลาดของคู่เงินนั้นๆในขณะนั้นได้ดีพอสมควรแล้ว มันก็คือการดูเพื่อเลือกหาคู่เงินที่มีทิศทางของแรงซื้อหรือขายที่ชัดเจน เพราะเราจะเข้าเทรดเฉพาะคู่เงินที่มีแรงซื้อหรือขายที่ชัดเจนเท่านั้น ในส่วนข้อที่ 1. นี้มันก็เพียงพอในการเลือกสินค้ามาเทรดได้ดีมากแล้ว สะดวกขึ้นมาก ดีกว่าไปไล่เปิดดูกราฟที่ละกราฟตามวิธีปกติ

 


 

2. ส่วนแสดงกราฟและสัญญาณการเข้าออเดอร์

จากข้อที่ 1. เราได้รู้จักวิธีการเลือกหาคู่เงินที่มีการเคลื่อนที่ของราคาที่ชัดเจนทำให้เหมาะสมกับการเข้าเทรด เพราะทิศทางของราคาวิ่งชัดเจน ทำให้การตัดสินใจเข้าเทรดฝั่ง Buy หรือ Sell ได้ง่ายขึ้น หลังจากที่เราได้คู่เงินที่ีความน่าจะเหมาะสมในการเข้าเทรดแล้วก็ตาม แต่ก่อนจะทำการเปิดเข้าออเดอร์ เราควรดูรายละเอียดก่อน เพราะตลาดฟอเร็กซ์มันมีความผันผวนจากปัจจัยแวดล้อมต่างๆมากมาย บางครั้งสัญญาณต่างๆชี้ชัดว่าราคาจะขึ้น แต่อยู่ๆราคากลับสวนทางลงไปเฉยเลย ซึ่งใครที่เทรดมานานระยะหนึ่งจะต้องเคยเจอปรากฎการณ์แบบนี้ ดังนั้นสัญญาณที่ปรากฎมันมีทั้งที่จริง และ เท็จ มันเป็นเรื่องปกติของตลาดอยู่แล้ว ใรโลกนี้มันไม่มีหรอกสัญญาณที่แม่นๆ 100%

ดังนั้นเพื่อความชัวร์ก่อนเข้าออเดอร์ควรดูกราฟให้ดีก่อน ว่าราคาปัจจุบันมันเป็นต้นเทรนด์ หรือ ปลายเทรนด์ หากเป็นปลายเทรนด์ราคามันอาจจะไปต่อได้นิดเดียวมันก็อาจจะกลับตัวไปอีกทิศทาง ทำให้เกิดการขาดทุนได้ หากเป็นต้นหรือกลางเทรนด์ราคามันยังมีโอกาสไปตามทิศทางของเทรนด์นั้นอีกนะยะหนึ่งพอที่จะไปถึงจุด TP ได้สบายๆ ทำกำไรได้ชัวร์ๆ

ตัวอย่างการตัดสินใจเข้าออเดอร์

ตัวอย่างภาพล่างนี้คู่เงิน CHFJPY แสดงถึงสถานะของราคาเป็นแรงฝั่งขาขึ้น ซึ่งควรจะเน้นเข้าเทรดฝั่ง Buy แต่ก่อนที่จะตัดสินใจเปิดเข้าออเดอร์ Buy เราควรเปิดดูกราฟราคาก่อน

CHFJPY-1

หากต้องการดูกราฟราคาของคู่เงินนั้นเราก็คลิ๊กปุ่ม SHOW PANEL ที่มุมซ้ายบนของจอได้ ดูจากกราฟเราจะเห็นว่าราคาวิ่งในฝั่ง Buy ที่แรงมาก แต่หากดูจากกราฟราคาจะเห็นว่าราคาได้เริ่มเทรนด์ขาขึ้นมานานและมาไกลแล้ว โอกาสที่ราคาจะขึ้นไปต่อยาวๆไกลๆก็จะมีโอกาสน้อย โอกาสที่จะย่อตัวลงจะมีมากกว่า เพราะโดยธรรมชาติปกติของราคาเวลามันจะขึ้นไปต่อได้อีกยาวๆมันจะต้องย่อตัวลงมาสะสมกำลังก่อน เพื่อให้ได้ต้นทุนที่ต่ำ แล้วค่อยดีดตัวขึ้นไปต่อยาวๆได้ นี่เป็นสาเหตุว่าทำไมถึงต้องเปิดดูกรราฟราคาก่อนตัดสินใจเข้าออเดอร์

CHFJPY-2

*** ยังมีต่อโปรดติดตาม ***

 

 

https://topindy.com/dea/easy1

This content is restricted to site members. If you are an existing user, please log in. New users may register below.

Existing Users Log In